Houlier 's Way

     ตอนนี้ก็มีมีเสียง THE KOP หลายคน รวมถึง สื่อมวลชนต่างๆ ของไทย และต่างประเทศ ไม่ค่อยพอใจ การทำทีม ของ ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล เชราร์ อุลลิเย่ร์ คนนี้เท่าที่ควร หลายเสียงบอกว่า ได้ประตูจากลูกโต้กลับทั้งสิ้น ไม่มีการทำเกมบุก กดดันคู่แข่งเหมือน แมนฯยู เลย (ผมว่าดีซะอีก ที่ไม่กดดันเหมือนแมนฯยู เพราะแมนฯยูฯ ฤดูกาลนี้ เสียประตูเยอะจริงๆ เลยครับท่าน)

     ก็มาไขข้อข้องใจกันนะครับ ว่าทำไม THE KOP ทั้งหลายและสื่อมวลชน ต่างไม่ชอบ การทำทีม ของผู้จัดการทีม ชาวฝรั่งเศสคนนี้กัน โดยพยายามชี้ ให้เห็นว่า เกมรุก ไม่มีความหลากหลาย เหมือนกับ แมนฯยูฯ หรือ ทีมชั้นนำของยุโรปเลย

     ต้องร่ายยาว เริ่มตั้งแต่สมัย ที่ลิเวอร์พูล ตกต่ำตั้งแต่ปี 1991(ปีที่ได้แชมป์ ดิวิชั่น 1 ล่าสุด) ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำทีมของ แกรม ซูเนสส์ และ รอย อีแวนส์ ไม่เคยนำความสำเร็จ มาสู่ สโมสรลิเวอร์พูล ได้เลย เพราะอะไรนั้น ไม่ต้องหาคำตอบกันเลย THE KOP ยุคเก่า คงทราบคำตอบได้ดีมาก เหตุเพราะว่า กองหลังห่วย และ ผู้รักษาประตูห่วยแตกนั่นเอง แต่ กองหน้า+กองกลาง ยิงได้เยอะ เป็นการทดแทน

     กองหน้าทำสกอร์ได้มากเท่าไหร่ กองหลังก็เสียเท่านั้น ยิ่งได้ผู้รักษาประตูอย่าง เดวิด เจมส์ ด้วยหล่ะก็ลูกโด่งหายห่วง (ฮ่วย!!!) กองหลังของลิเวอร์พูล ยุคนั้น เรียกว่า สุดยอดระดับโลกทั้งนั้น เริ่มจาก ควาเม่ย์ ,บียอร์นบี้ ,ฟิล บ๊าบบ์ , รัดด็อก , สตีฟ ฮาร์คเนสส์ , เดวิด เจมส์ ระดับโลกจริงๆ (ฮ่วย!!!)

     แต่สมัยนั้นเราก็เสียกองหลังทีมชาติอังกฤษไป อย่างเร่งด่วนทั้งๆที่เขามีฝีเท้าดีมาก เขาก็คือ ร็อบ โจนส์ โจนส์มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้า ผ่าตัดแล้วผ่าตัดอีกจนเขาต้อง แขวนสตั๊ดในที่สุด

     หลังจากหมดยุค ของ รอย อีแวนส์ อุลลิเย่ร์ เข้ามาคุมทีม ลิเวอร์พูล เต็มตัว อย่างแรก ที่เขาเล็งเห็นความสำคัญ ของลิเวอร์พูล ก็คือ กองหลัง และผู้รักษาประตู ซึ่งมีความสำคัญ ต่อทีม ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก ถ้าต้องการจะลุ้นแชมป์ ซึ่งฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ปราการหลัง 4 คนและผู้รักษาประตู 1 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมานั้น ประสบความสำเร็จแค่ไหน จากการที่สามารถคว้า 3 แชมป์ และก็พาทีมคว้าตั๋วไปแข่ง ยูโรเปี้ยนคัพได้สำเร็จ

     และปัญหาเก่าๆของลิเวอร์พูล ก็หมดไปในการเสียประตูง่ายๆ เสียจากลูกเซ็ทพรีส ประจำเลย ในสมัยนั้น และสิ่งหนึ่งที่ผมเคยได้ยินจากกุนซือหลายคนโดยเฉพาะจาก จอร์จ เกรแฮม เคยกล่าวไว่ว่า "ฟุตบอลนั้น ถ้าเราไม่เสียประตู ให้คู่ต่อสู้ แสดงว่าเรามีโอกาส ที่จะชนะได้เช่นกัน" เรียกได้ว่า ถ้าเกมรับแน่น ไม่ว่าระดับโลกขนาดไหน ก็ไม่มีทางเจาะตาข่ายได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน

     เหตุนี้เอง อุลลิเยร์ ต้องการให้เกมรับแน่น ไม่หลวมและเสียประตูง่าย เหมือนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็เลยมีหลายคนบอกว่า อุดประตูมันอย่างเดียว และรอโต้กลับอย่างเดียว ไม่กล้าเปิดเกมรุก แลกกับคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเล่น เหย้า-เยือน ทำให้หลายคนบอกว่าเกมของ ลิเวอร์พูล ยุคนี้ไม่หวือหวาเหมือนแต่ก่อนเลย

     ผมว่า ไม่หวือหวา น่ะดีแล้ว ถ้าหวือหวาแบบแต่ก่อน รับรองถึงตอนนี้ลิเวอร์พูล คงเสียประตู ไปแล้วมหาศาล และฤดูกาลที่ผ่านมา รับรองว่า ไม่มีทางได้ 3 แชมป์ อย่างแน่นอนครับผม

     และคอลัมนิสต์ทั้งไทย และเทศ ต่างก็บอกว่าเกมรุกของ ลิเวอร์พูล เล่นไม่เป็น เป็นแต่รับ และก็โต้กลับอย่างเดียว บางคนบอกว่า เกมน่าเบื่ออีกต่างหาก อุดมันอย่างเดียว ก็อย่างที่บอกแล้วนะครับว่า

     ผู้จัดการทีม แต่ละคนนั้น ไม่ได้มีการทำทีม ที่เหมือนกัน ทุกคนมีทางคนตนเองอยู่แล้ว เฉกเช่นในอดีต ที่ รอย อีแวนส์ เน้นเกมสวยงาม (เหมือนที่ตอนนี้ แมนฯยูฯ เอามาเลียนแบบ) เกมรุกดุดัน และผลสรุปเป็นไงครับ กองหน้าก็ยิงเข้าไปเหอะ (ฟาวเลอร์ - คอลลีมอร์ 2 คนนี้เป็นคู่ศูนย์หน้า ที่ทำประตูได้มากที่สุด ของสโมสร ในระดับฟุตบอลลีก) กองหลัง+ประตู เสียประตู ไม่รู้เท่าไหร่เลยฮ่วย!!!!

     และทั้งหมดที่ กล่าวมานี้ก็คือว่า การทำทีม จะทำได้สำเร็จหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติ ของผู้จัดการทีม ของแต่ละคนว่าจะมีแผนการเล่นอย่างไรบ้าง อย่างที่ฤดูการที่แล้ว ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ได้ 3 แชมป์ และได้สิทธิ์ไปแข่ง ยูโรเปี้ยนคัพ ด้วย ก็เพราะว่าทั้งหมดนี้คือ HOULIER 'S WAY ยังไงหล่ะครับผม

by น้าฐา
dittha@liverpoolthailand.com

 

LiverpoolThailand.com. All rights reserved. Best viewed with IE 5.xx or higher, Screen Resolustions 800x600 pixels